วันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2559

สารคดีเชิงข่าว


การเขียนสารคดีเชิงข่าว



สารคดีเชิงข่าว : หัวใจและการนำเสนอของ วีระศักดิ์ จันทร์ส่งแสง นักเขียนสารคดีมือรางวัล
         เมื่อวันที่ 21 กันยายน ที่ผ่านมา แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรม ได้รับสนับสนุนจากสำนักงานสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้โอกาสเชิญคุณวีระศักดิ์ จันทร์ส่งแสง นักเขียนผู้มากความสามารถที่มีรางวัลการันตีมากมาย อาทิ รางวัลเซเว่น บุ๊คอะวอร์ด ,รางวัลลูกโลกสีเขียว ฯลฯ มานั่งจับเข่าคุยแลกเปลี่ยนว่าจะทำอย่างไรให้งานเพื่อสังคมสามารถถ่ายทอด สื่อสารได้อย่างน่าสนใจ มีชีวิตชีวา ไม่ใช่แค่การรายงานว่าใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร เพราะกิจกรรมทางสังคมมีเรื่องราวรายรอบที่เคลื่อนไหวได้น่าสนใจนัก ทีมงานของแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน ได้เรียบเรียงเนื้อหาจากกิจกรรมอบรมปฏิบัติการในครั้งนี้มาฝากกันครับ

นัยยะของสารคดีเชิงข่าวสารคดีเชิงข่าว คือ การนำเสนอข่าวในรูปแบบสารคดี คือ เล่าเรื่องในรูปแบบวรรณศิลป์ ถ่ายทอดเรื่องที่เขียนขึ้นจากเค้าความจริง ไม่ใช่จากจินตนาการ  โดยสามารถหยิบยกส่วนใดส่วนหนึ่งของเรื่องมาเขียนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเล่าให้ครบองค์ประกอบเช่นข่าว
หัวใจสำคัญของการเขียนสารคดี

 - สารคดีเป็นบันเทิงคดี เวลาเขียนสารคดี ทำสารคดีทีวี หรือแม้แต่เขียนสคริปต์รายการสารคดีทางวิทยุ โทรทัศน์ เขียนบทความสารคดีอะไรก็แล้วแต่ เราจะยึดหัวใจก็คือ สารคดีเป็นบันเทิงคดีประเภทหนึ่ง นั่นหมายความว่าต้องอ่านสนุก สามารถดึงดูดให้ผู้อ่านติดตามจนจบเรื่อง
 - นำเสนอข้อมูลที่เป็นจริง  การเขียนสารคดี ต้องนำเสนอข้อมูลหรือข้อเท็จจริงเช่นเดียวกับข่าว เราไม่สามารถแต่งเรื่องสารคดีเองขึ้นจากจินตนาการได้ จะต้องนำเสนอสิ่งที่เป็นความจริงหรือที่เรียกว่า fact พูดง่ายๆ คือ เป็นความรู้คู่ความบันเทิง

 - นำเสนออย่างสร้างสรรค์  สารคดีจะต้องผ่านกระบวนการนำเสนออย่างสร้างสรรค์ ต้องผ่านวรรณศิลป์ในการนำเสนอ คือต้องเอาข้อมูล ข้อเท็จจริงนั้น มาใส่ในสมองของเรา เพื่อที่จะแปลเอาข้อมูลที่ยาก เข้าใจยาก น่าเบื่อหรือแข็งทื่อ ให้มีชีวิตชีวา หรือเกิดความสนุกสนาน ต้องมีลีลาลูกเล่นในการนำเสนอ จะขึ้นต้นเรื่องเช่นไร จะร้อยเรียงเรื่องราวอย่างไร จึงจะชวนอ่าน ชวนดู ชวนติดตาม ไม่น่าเบื่อ
 - ใช้รูปธรรมอธิบายนามธรรม  มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมทย์ ศิลปินแห่งชาติเคยบอกว่า เมื่อจะเขียนอะไรก็ตาม อย่าเพียงแต่เล่า จงสำแดงให้เป็นที่ประจักษ์ อย่าเพียงแต่เล่าเฉยๆ อย่าเพียงแต่เล่าว่า มันสวยเหลือเกิน น่าสนุก น่าตื่นเต้นเหลือเกิน แต่แสดงออกมาให้เห็นเลยว่า สวย-มันสวยอย่างไร สนุก-มันสนุกแบบไหน ตื่นเต้น-มันตื่นเต้นขนาดไหน ก็คือ ใช้รูปธรรมที่จับต้องได้มาอธิบายนามธรรมที่ยากๆ ให้ผู้อ่านมองเห็นภาพ

องค์ประกอบของสารคดี  : หากสามารถมีให้ครบดังโครงสร้างสารคดีนี้ จะเพิ่มความสมบูรณ์มากขึ้น

ชื่อเรื่อง    :  การเขียนชื่อเรื่องต้องจับใจ มีข้อความสั้นกระชับ สามารถสรุปเนื้อหาทั้งหมดของเรื่องให้อยู่ในชื่อเรื่องได้ จะดีมาก คุณวีระศักดิ์ ได้ให้ผู้เข้าอบรมทดลองเขียนเรื่องจากการดู วีดีทัศน์สารคดีช่วงชีวิตหนึ่งของ “สืบ  นาคะเสถียร” ได้ชื่อเรื่องที่น่าสนใจจากผู้เข้าอบรม อาทิ
 “สืบ นาคะเสถียร 20 ปีกับการจากไปที่ไม่สูญเปล่า
 “สืบ นาคะเสถียร นักอนุรักษ์ผู้ล่วงลับ
“ สืบ...สู่การสืบทอดเจตนา” เป็นต้น
เปิดเรื่อง  : ควรเขียนเปิดเรื่องให้มีความน่าสนใจ เนื่องจากเป็นส่วนสำคัญของสารคดี ถ้าเปิดเรื่องไม่ดีจะทำให้ผู้อ่านไม่สนใจอ่านจนจบ  การเปิดชื่อเรื่องที่น่าสนใจจากผู้เข้าอบรมในงานเขียนหัวข้อเดียวกัน อาทิ
   “ หากนึกถึงภาพชายวัยกลางคน รูปร่างผอมเกร็ง ใส่แว่นกรอบหนา หน้าตาเอาจริงเอาจัง คงจะเป็นใครไม่ได้นอกจาก “สืบ นาคะเสถียร” เจ้าป่าแห่งห้วยขาแข้ง นักสู้ผู้มีอุดมการณ์อนุรักษ์ธรรมชาติ ผู้ยอมเสียสละชีวิตของตนไว้เป็นบทเรียนที่น่าจดจำ

ตัวเรื่อง    การเขียนตัวเรื่องที่ดี ควรมีเส้นเรื่อง ( Story Line) ที่แข็งแรง  เพื่อไม่ให้หลุดไปจากประเด็นหลัก หากเปรียบงานศิลปะ เส้นเรื่องเปรียบได้กับ Perspective ที่จูงใจ นำสายตาคนดู คนอ่าน ประคองทั้งแก่นเรื่อง (Theme) และโครงเรื่องไว้ได้

  - จบเรื่อง    การจบเรื่องควรสรุปอย่างประทับใจ หรือชวนให้ผู้อ่านคิดต่อ ตัวอย่างการปิดเรื่องจากผู้เข้าอบรม อาทิ
 “แม้เขาจะจากไปเล้ว แต่ชื่อเสียงและคุณงามความดียังคงปรากฏให้เห็น หวังว่าการจากไปของ “สืบ” จะกลายเป็นบทเรียนแก่บรรดาข้าราชการไทย เพือสืบทอดเจตนารมณ์ของเขาให้ยั่งยืน

 ข้อมูล   ข้อมูลทางสารคดี การได้มาซึ่งข้อมูลสำหรับการเขียนสารคดี มีหลายวิธี อาทิ

1. ข้อมูลแห้ง หรือข้อมูลทุติยภูมิ  : คือ  ข้อมูลที่มีการจัดทำ รวบรวมไว้แล้ว ทั้งในรูปของเอกสาร หนังสือ เทป หนัง
    วีดีโอ ฯลฯ

2. ข้อมูลจากการสังเกตการณ์  :  จะได้จากการเข้าไปมีส่วนร่วม ร่วมรู้เห็นในการงาน กิจกรรม โดยการสัมผัสจริงทั้งด้วยตา
   ใจ และความรู้สึก งานสารคดีที่เด่นมากจากข้อนี้ อาทิ ผลงานของอาจารย์เสกสรร ประเสริฐกุล

3. ข้อมูลจากการสัมภาษณ์ : สัมภาษณ์ผู้รู้ แหล่งข้อมูล ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนั้น ๆ ซึ่งวิทยากร คือ คุณวีระศักดิ์ มักจะ
   ใช้วิธีนี้ เพราะทำได้รวดเร็ว เข้าถึงข้อมูลจริงในวิถีที่เป็นอยู่ เป็นต้น

          บางครั้งสารคดียังใช้วิธีการผสมผสานให้ได้มาซึ่งข้อมูลที่น่าสนใจมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องใช้เพียงวิธีใดวิธีเดียว
   
-  วิธีการนำเสนอ   เราสามารถสื่อสารงานเขียนสารคดีได้ตามความถนัด และค่อยๆ ฝึกฝนนำเสนอแนวทางอื่นๆ เพิ่มเติม ได้ เช่น
1. เขียนแบบบันทึก  เหมือนการเขียนบันทึกในไดอารี่ประจำวัน แต่เป็นบันทึกแบบมีหัวเรื่อง มีโครงเรื่องตามที่
   แนะนำไปแล้ว
2. ลงลึกในประเด็น  การแบ่งประเด็น แล้วเขียนไปทีละประเด็นจนจบ  จะง่ายทั้งกับคนเขียนและผู้อ่าน เช่น
    หากเราจะเขียนเรื่องมะพร้าว ก็อาจตั้งประเด็นตั้งแต่ ประวัติความเป็นมา , ประเภท ,
   ประโยชน์ของมะพร้าว ฯลฯ
เลือกเฟ้นวิธีการนำเสนอ  ใส่ใจและมีความพยายามในการสรรหารูปแบบวิธีการนำเสนอ เช่น การเล่าเรื่องไม่จำเป็นต้องเรียงตามประเด็นที่วางไว้ หรือไม่ต้องเล่าเรื่องตามลำดับเวลา  มีการตัดต่อสลับฉาก-เหตุการณ์  มีการขยักข้อมูล และค่อย ๆ บอกเล่าเพื่อให้ชวนติดตาม
 เคล็ดลับในการสร้างเสน่ห์ในงานเขียน  มีเคล็ดลับที่วิทยากรบอกว่าเก็บมาจากนักเขียนชั้นครู นักเขียนในดวงใจ มาแบ่งปันให้งานเขียนมีความน่าสนใจ ดังนี้
 -  จะเล่าเรื่องอะไรให้เข้าสู่เรื่องให้เร็วที่สุด ด้วยแง่มุมใดก็ได้
 - มีผู้เล่าเรื่อง เช่น  ฉัน,  เขา,  ตัวละคร,  หรืออาจผสมก็ได้ (ฉัน+ตัวละคร)
 - มีฉาก : เรื่องราวเหตุการณ์ในเรื่องเกิดที่ไหน สภาพเป็นอย่างไร
 - ตัวละคร :  แหล่งข้อมูลที่มีตัวตนจริง ๆ
 -  บทสนทนา  : การให้ข้อมูล  คำพูด  การโต้ตอบกันของผู้คนในเรื่อง
การเล่าเรื่องต้องสมจริง : แสดงให้เห็นเหตุผล ที่มาที่ไป  การใส่ความคิดเห็นส่วนตัว การพูดถึงตัวเอง      หากไม่แนบเนียนจะทำให้ความน่าเชื่อถือลดลง
-  ต้องพยายามทำให้ผู้อ่านมองเห็นภาพ  มีการอุปมา-อุปมัย
เคล็ดลับเพิ่มเติม
  -  งานเขียนที่ดีต้องมี... แต่ตรรกะ เหตุผลขยัก ดำเนินเรื่องอย่างกระชับ พยายามเข้าเรื่องให้เร็วที่สุดขยาย , ขยี้  เน้นประเด็นสำคัญ (ศุ  บุญเลี้ยง)
  - มีความขัดแย้งร่วมสมัยมุมมองแหลมคมชื่อเรื่องมีพลัง (วันชัย  ตัน)
งานเขียนที่ดี : เสริมสำนวนเปรียบเปรย สรรคำที่ใช้ให้เหมาะสม เติมพลังของภาษา

คุณสมบัติของนักเขียนสารคดีที่ดี
     - ต้องเป็นคนช่างซักถาม เป็นคนช่างสังเกต อยากรู้อยากเห็น ทำตัวเป็นแก้วน้ำที่ไม่เต็มอยู่เสมอ
     - มีวิญญาณเป็นนักถ่ายทอด นักเล่าเรื่อง แต่ต้องให้ผู้อื่นเข้าใจด้วย
      - ใฝ่ใจสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ประเด็นใหม่ๆ กลวิธีการนำเสนอใหม่ๆ อยู่เสมอ เรื่องที่มีคนเขียนครั้งแล้วครั้งเล่า เราอาจจะสามารถนำมาเขียนในมุมมองใหม่ๆ ได้

      - ต้องเป็นผู้รับสื่อที่ดี จะเป็นนักผลิตสารคดีที่ดีต้องเป็นนักดูสารคดีที่ดีก่อน เป็นนักอ่าน นักฟัง สนใจเรื่องโน้นเรื่องนี้ เป็นผู้รับสื่อที่ดี
      - ต้องเห็นคุณค่าของคนทุกระดับชั้น ไม่ว่าแหล่งข้อมูลจะเป็นคนระดับไหน ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือชาวนา บางครั้งแหล่งข้อมูลที่ดีของเราก็คือชาวบ้าน ต้องเห็นคุณค่าของคนเท่าเทียมกัน

อ้างอิง //  http://www.happyreading.in.th/news/detail.php?id=49

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น